ความผิดปกติของหลอดเลือดดำ

คุณทราบหรือไม่ว่าจากข้อมูลของสมาคมโรคหลอดเลือด:

• ปัญหาของหลอดเลือดดำอยู่ในกลุ่มอาการผิดปกติเรื้อรังที่พบมากที่สุดในอเมริกาเหนือ เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายก่อนวัย 50 ปี มีอาการผิดปกติของหลอดเลือดดำที่ขาอย่างชัดเจน
• สมาคมโรคหลอดเลือดระบุว่าโรคเรื้อรังของหลอดเลือดดำ (CVI) เป็นสาเหตุทั่วไปของอาการปวดขาและขาบวม อีกทั้งอาจส่งผลมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่
• CVI เกิดขึ้นเมื่อลื้นของหลอดเลือดดำทำงานอย่างไม่สมบูรณ์และการไหลเวียนของเลือดในขามีความบกพร่อง
• แหล่งที่มาข้อมูล: สมาคมโรคหลอดเลือด –CVI: คืออะไร – www.vdf.org

ทำไม Pycnogenol® จึงเป็นตัวป้องกันทางธรรมชาติจากอาการขาบวมและความผิดปกติของหลอดเลือดดำ

คุณเคยสังเกตไหมว่าขา ข้อเท้าหรือเท้าของคุณหนักและบวมขนาดไหนหลังจากเที่ยวบินหรือนั่งรถเดินทางในระยะไกล อาการไม่สบายตัวนี้เกิดขึ้นเป็นปกติในผู้ที่ต้องนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานานและผู้ที่ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ บางทีคุณอาจเคยรู้สึกน่องตึง ขากระตุกหรือปวดขาในระหว่างเดิน อาการทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพและอาการโดยรวมของหลอดเลือดดำของเรา ตามที่ ดร. Richard Passwater ผู้บุกเบิกการวิจัย Pycnogenol® กล่าวว่าการค้นพบแรกๆ เกี่ยวกับสารสกัดคือความสามารถในการทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เล็กที่สุดในร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น

คุณทราบหรือไม่ว่า Pycnogenol® ช่วยให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น

ในการศึกษาทั้งระยะก่อนการทดลองและในระยะทดลองทางคลินิก Pycnogenol® ถูกแสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้นและช่วยป้องกันอาการบวมน้ำ การวิจัยแสดงว่า Pycnogenol® จะเข้าไปหุ้มหลอดเลือดฝอยที่เปราะและหยุดการไหลของเลือดออกสู่เนื้อเยื่อซึ่งทำให้เกิดอาการบวม บวมน้ำ และอาการเลือดออกในจุดเล็ก คุณสมบัติต้านการอักเสบร่วมกับความสามารถในการลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด สิ่งเหล่านี้คือกลไกการทำงานพื้นฐานของ Pycnogenol® ที่ทำให้สุขภาพของหลอดเลือดดำดี

ทำไมสารนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับภาวะหลอดเลือดดำพร่อง

ในบางกรณี อาการบวมที่ขาโดยทั่วไปอาจพัฒนากลายเป็นโรคหลอดเลือดดำพร่องเรื้อรัง (CVI) ซึ่งอาจนำไปสู่ความยุ่งยากและแผลเปื่อยหากปล่อยให้ไม่ได้รับการรักษา

จนถึงปัจจุบันมีการศึกษาทางคลินิก 15 ฉบับ มีผู้ป่วยรวม 784 ราย เกี่ยวกับภาวะหลอดเลือดดำพร่องกับสาร Pycnogenol ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ ในความจริงแล้วประสิทธิภาพที่สูงของ Pycnogenol® ในการรักษาโรคหลอดเลือดดำพร่องนั้นเป็นที่ประจักษ์ผ่านทางการศึกษาจำนวนมาก ซึ่งได้ทำการศึกษาควบคู่ไปกับตัวยาฟื้นฟูสุขภาพเส้นเลือดดำอื่นๆที่เป็นที่รู้จักในท้องตลาด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการศึกษาเปรียบเทียบชนิดปิดข้อมูลทั้งสองฝ่ายของเยอรมันที่มีผู้ป่วย CVI เข้าร่วมศึกษา 40 ราย Pycnogenol® ได้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าสารสกัดจากเมล็ดเกาลัด สำหรับการลดอาการบวมน้ำบริเวณตั้งแต่เอวลงไป รวมถึงการบรรเทาอาการของ CVI แม้จะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางคลินิกหนึ่งที่มีผู้ป่วยเข้าร่วม 70 ราย ได้ศึกษาถึงประสิทธิผลของ Pycnogenol® ในการรักษาโรคหลอดเลือดดำพร่องเทียบกับการใช้ Troxerutine อนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ของ Rutine ซึ่งเป็นวิธีการรักษา CVI โดยทั่วไป  หลังการรักษา 60 วันพบว่าการใช้ Troxerutine ร่วมกับ Pycnogenol® ให้ผลการรักษาในการบรรเทาอาการของ CVI ดีกว่าการใช้ Troxerutine เพียงอย่างเดียว

Pycnogenol®: เพื่อนร่วมการเดินทางอย่างมีสุขภาพดีที่ขาดไม่ได้

ขณะที่เรารีบเร่งฝ่าฝูงชนที่แน่นขนัดภายในสนามบิน การทำตัวให้มีสุขภาพแข็งแรงกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญหลัก ในขณะเดินทางเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใส่ใจกับสุขภาพหลอดเลือดดำของเรา

การไม่ได้ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน การรับประทานน้ำปริมาณน้อยลงและการขาดน้ำในสภาพอากาศที่แห้งภายในเครื่องบินที่ความกดอากาศสูงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการบวมเนื่องจากการหมุนเวียนเลือดที่ไม่เพียงพอซึ่งทำให้ของเหลวคั่งค้างสะสมในเนื้อเยื่อบริเวณขา คนส่วนใหญ่จะสังเกตได้ถึงผลกระทบของอาการบวมในเที่ยวบิน หากเขาเหล่านั้นถอดรองเท้าออกและพบว่ามีความยากลำบากในการใส่กลับเข้าไปตอนเที่ยวบินถึงที่หมายแล้ว อาการบวมที่ขาและข้อเท้าอาจนำไปสู่สภาวะที่อันตรายเช่นโรคหลอดเลือดดำชั้นลึกที่ขาอุดตัน

หนึ่งในการศึกษาทางคลินิกเรื่องการบวมเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า Pycnogenol® มีผลลัพธ์ด้านบวกต่ออาการบวมที่ขา (บวมน้ำ) ระหว่างการนั่งเที่ยวบินทางไกลที่กินระยะเวลานาน 7-12 ชั่วโมง การศึกษาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Clinical and Applied Thrombosis/Hemostasis นักวิจัยทดสอบอาการบวมที่ข้อเท้าหลังเที่ยวบินของผู้เข้าร่วม 169 รายและพบว่าผู้โดยสารที่รับประทาน Pycnogenol® เสริมมีอาการบวมที่ขาและข้อเท้าและอาการปวดเมื่อยน้อยกว่า อาการทั้งสองอย่างนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างเป็นปกติกับการเดินทางระยะทางไกล

งานวิจัยอื่นๆ ที่น่าศึกษานั้นได้แก่การศึกษาผู้โดยสาร 211 รายที่บินระยะทางไกล (7-12 ชั่วโมง) ซึ่งแสดงถึงความสามารถของ Pycnogenol ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ผู้โดยสารได้รับประทาน Pycnogenol 100 มก. สองแคปซูลก่อนออกเดินทางสองถึงสามชั่วโมงและอีกสองแคปซูลในอีกหกชั่วโมงต่อมาระหว่างเที่ยวบิน และรับประทานอีกหนึ่งแคปซูลวันต่อมาหลังจากที่ถึงที่หมายแล้ว ในขณะที่มีผู้โดยสารห้ารายในกลุ่มควบคุมซึ่งรับประทานยาหลอกเกิดลิ่มเลือดขึ้น แต่กลับไม่พบผู้โดยสารในกลุ่มที่ทาน Pycnogenol เกิดภาวะลิ่มเลือดในระหว่างเที่ยวบินเลย